- 0
ชายชรา กับ ภรรยาทั้งสี่
คำว่า สามี ภรรยา คือ ชายหญิงสองคน ตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน โดยการสมรสกันอย่างถูกต้องตามประเพณีและกฎหมาย หรือบางคู่ อาจจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน โดยไม่มีสิ่งเหล่านี้มาเกี่ยวข้องเลย
หากเมื่อได้รักและเข้าใจ…เรียนรู้…ยอมรับในตัวตนของแต่ละฝ่ายได้อย่างไม่มีข้อแม้…ชายหญิงคู่นั้นจึงตกลงปลงใจใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน…ฝ่ายชายสัญญาว่า จะรักและเป็นสามีที่ดี…คอยดูแลปกป้องหญิงหนึ่งตลอดไป
ส่วนหญิงหนึ่งก็ให้คำมั่นสัญญาว่า ตนจะเป็นภรรยาที่ดี จะดูแลเอาใจใส่สามีทุกอย่าง ตลอดทั้งงานบ้านงานเรือนไม่ให้ขาดตกบกพร่อง…และทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
ชายรู้สึกภูมิใจเหลือเกินที่ได้หญิงหนึ่งมาเป็นภรรยา เพราะเธอทั้งสวย สดใส ตลอดทั้งการช่างพูดเอาอกเอาใจของเธอ ทำให้ชายมีความสุขมากขึ้นทุกวัน
จนกระทั่งหญิงหนึ่งตั้งครรภ์ ชายตื่นเต้นดีใจ…ชายได้ทำหน้าที่สามีอย่างดีที่สุด ทำงานบ้านงานเรือนแทนหญิงหนึ่งทุกอย่าง จนกระทั่งถึงวันที่รอคอย หญิงหนึ่งให้กำเนิดบุตรสาวหน้าตาน่ารักน่าชัง แล้วหญิงหนึ่งก็หายไปกับสายลมร้อน
จากนั้น ชายได้พบกับหญิงสอง…ถึงแม้ว่าเธอจะมีความสวยความสาวไม่เท่าหญิงหนึ่ง แววตาของเธอดูเหงา ๆ ไม่สดใส ขี้น้อยใจ บางครั้งร้องไห้อย่างไม่มีเหตุผล แต่ชายกลับรู้สึกสงสารเธอ ชายพยายามที่จะเข้าใจในความเป็นเธอเสมอ ชายยังคงมอบความรักให้กับเธอทุก ๆ วัน และอยู่กินกันมาจนหญิงสองให้กำเนิดบุตรชาย…แล้วหญิงสองก็หายไปกับสายลมหนาว…
ชายก็ได้เจอกับหญิงสาม…เธอดูแก่กว่าหญิงหนึ่งและหญิงสองมากเลยทีเดียว ใบหน้าของเธอเริ่มมีริ้วรอยแห่งกาลเวลา ความน่ารักสดใสแทบไม่มี อีกทั้งเธอยังเป็นผู้หญิงเจ้าอารมณ์ หวาดระแวง หงุดหงิด ขี้โมโห อยู่เสมอ เธอแทบไม่มีข้อดีหลงเหลืออยู่ จนทำให้ชายรู้สึกเบื่อหน่าย ความดูแลเอาใจที่เคยมีให้กันเริ่มลดลง หากแต่เธอก็ทำหน้าที่ของภรรยา ได้เป็นอย่างดี จึงได้ทนอยู่กันมา จนกระทั่งหญิงสามให้กำเนิดบุตรสาวอีกหนึ่งคน…แล้วหญิงสามก็หายไปกับพายุฝน
ชายได้พบกับหญิงสี่ เธอไม่มีความสวยสดใสแม้แต่น้อยเธอดูเหนื่อยล้าเหลือเกิน ร่างกายของเธอทรุดโทรม และผ่ายผอม ใบหน้ามีรอยตีนกาและเหี่ยวย่น มองแล้วรู้เหี่ยวเฉา ชวนหงุดหงิด แถมเธอยังเป็นผู้หญิงที่แสนจะ จู้จี้ ขี้บ่น ไปซะทุกอย่าง นับวันข้อเสียของเธอดูเหมือนจะมีมากขึ้น จนชายอดที่จะถามตัวเองไม่ได้ ว่าจะทนอยู่กับผู้หญิงคนนี้ได้อีกนานแค่ไหน
ชายหันหน้าไปมองหญิงสี่ ที่กำลังนอนหลับใหล เสียงไก่ขันดังขึ้น เธอต้องรีบลุกทั้งที่ยังนอนไม่เต็มอิ่ม เธอรีบหุงหาข้าวปลาอาหารให้เสร็จทันเวลา เธอเข้าไปปลุกชาย และลูก ๆ ให้อาบน้ำแต่งตัว เธอเตรียมเสื้อผ้าสำหรับทุกคน เธอเตรียมอาหารสำหรับมื้อเช้าไว้บนโต๊ะ เธอส่งลูกไปโรงเรียน จากนั้นเธอรีบกลับมา เพื่อทำงานบ้าน เธอล้างจาน ซักผ้า รีดผ้า กวาดบ้าน ถูบ้าน หมดแล้วกับเวลาในช่วงเช้า ช่วงบ่าย เธอเข้าสวน ปลูกผัก เลี้ยงไก่ เก็บผัก เก็บไข่ มาขายหน้าบ้านเพื่อเป็นรายได้เสริม ใกล้ค่ำแล้ว เธอต้องรีบมาเก็บผ้าเตรียมอาหารเย็น ให้ชายและลูก ๆ อีกครั้ง จากนั้นก็เก็บจาน ทำความสะอาดกว่าจะเสร็จก็มืดค่ำ เธอนั่งสอนการบ้านให้กับลูกทุกคนจนดึก เธอทำแบบนี้ ซ้ำไปซ้ำมาทุกวัน ดูเหมือนเธอจะเหนื่อยมาก ๆ กับภาระหน้าที่ ที่เพิ่มและหนักขึ้นเรื่อย ๆ แต่ลึก ๆ ในใจของเธอคงมีความสุข เพราะหากเธอไม่มีความสุขแล้ว เธอคงไม่ทน มาจนถึงทุกวันนี้
ชายนอนคิดทบทวนกับตัวเอง คิดถึงวันเวลาที่ผ่านมา คิดหญิงหนึ่ง สอง สาม ที่ชายเคยรู้จัก หญิงเหล่านี้หายไปไหนกันนะ ชายลุกขึ้นมามองดูภาพของตัวเองในกระจก สำรวจดูตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า สังเกตผมที่เคยดกดำ กลับมีสีขาว ใบหน้าที่เคยหล่อเหลา กลับมีแต่รอยเหี่ยวย่น ซึ่งไม่ต่างกับหญิงเลย ชายหนุ่มคนนั้นหายไปไหนกันนะ ใช่แล้ว…กาลเวลา นำพาให้ชายหญิง เหล่านั้น จากไป พร้อมกับความร้อน สายฝน และลมหนาว เมื่อฤดูกาลเปลี่ยนไปสิ่งมีชีวิตทั้งหลายย่อมมีการเปลี่ยนแปลง หากแต่การเปลี่ยนแปลงนั้น เป็นการเปลี่ยนแค่รูปร่างภายนอกนั่นเอง
เมื่อชายคิดได้เช่นนั้น เขาเข้าไปโอบกอดภรรยาของเขา ไม่ว่าเธอจะเป็นหญิงหนึ่ง สอง สาม หรือสี่ ความจริงเนื้อแท้ เธอคือคนเดียวกัน เธอไม่ได้หายไปไหนเลย เธอคอยเดินเคียงข้างผ่านร้อนฝนหนาวมาโดยตลอด แต่คนที่อยากออกไปจากชีวิตเธอกลับเป็นตัวของชายเอง
ชายรู้สึกเสียใจกับความคิดและการกระทำของตัวเอง แต่มันก็ไม่สายเกินไป ที่ชายจะกลับมาประคับประคองปกป้องดูแลคนที่รัก และจับมือกันไปสู่อนาคตที่สดใส ย่างมีความสุข
ในบทความนี้ ผู้เขียนต้องการสื่อให้เห็นว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง ในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ ความรู้สึก มักจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ การใช้ชีวิตคู่ อย่าได้มองแค่มุมสว่าง แต่โปรดมองตรงมุมมืดของเขาด้วย เมื่อใจยอมรับกับทุกมุมที่เกิดขึ้น ชีวิตคู่จะดำเนินต่อไปอย่างไม่มีปัญหา